Pages

Friday 14 November 2014

เซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์ เซลล์ยอดนิยมที่ใช้รักษาโรคในสัตว์

เซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์ เซลล์ยอดนิยมที่ใช้รักษาโรคในสัตว์
เติมพงศ์ วงศ์ตะวัน
            สวัสดีครับ วันนี้มาคุยกันต่อถึงเรื่องเซลล์ต้นกำเนิดอีกชนิดหนึ่ง นั่นก็คือ เซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์ (Mesenchymal stem cell) ซึ่งเป็นต้นกำเนิดเพียงหนึ่งเดียวที่นิยมใช้ในการรักษาโรคในสัตว์เลี้ยง เช่น ในสุนัข และม้าครับ
เซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์ คืออะไร
คำว่ามีเซนไคม์ (mesenchyme)นั้นหมายถึง เนื้อเยื่อของตัวอ่อน ซึ่งจะสามารถพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปเป็น เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (connective tissue) และเนื้อเยื่อกระดูก เนื้อเยื่อเกี่ยวพันนั้นเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของอวัยวะเกือบทุกชนิดในร่างกาย และ ดังนั้นเซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์ก็จะสามารถพบได้ในเกือบทุกอวัยวะครับแต่ในปริมาณที่แตกต่างกัน
รักษาโรคอะไรได้บ้าง
ถึงแม้ได้มีการทดลองการใช้เซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์ในการรักษาโรคหลายชนิดทั้งในคนและในสัตว์ แต่ในคนนั้นยังไม่ได้มีการนำมาใช้อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะแตกต่างจากในสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัขและม้า ที่ได้มีการนำเซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์มาใช้แล้วอย่างแพร่หลายโดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและยุโรป สำหรับในเมืองไทยสัตวแพทย์ไทยก็ได้เริ่มนำเซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์มาใช้กันบ้างแล้ว
สัตวแพทย์ได้มีการนำเซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์มาใช้อย่างเป็นทางการในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับโรคกระดูก โรคข้อ โรคกล้ามเนื้อ โรคเอ็น และโรคภูมิแพ้ ในสุนัข เซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์ใช้ในการรักษาโรคข้อ สะโพกเสื่อม และข้อเข่าเสื่อม ในม้า ใช้เซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์ในการรักษาโรค เช่น โรคกล้ามเนื้อและเอ็นอักเสบ ช่วยให้กระดูกที่หักหายเร็วขึ้น
คุณสมบัติในการรักษาโรคของเซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์
เซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์มีคุณสมบัติพิเศษ คือ มันจะมีความสามารถในการต่อต้านการอักเสบ กระตุ้นการซ่อมแซมของอวัยวะและเนื้อเยื่อ ทำให้การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์เข้าไปในบริเวณที่มีการอักเสบอาจส่งผลให้ลดการอักเสบและกระตุ้นการซ่อมแซมในบริเวณนั้นได้ดีขึ้น นอกจากนี้เซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์ยังมีความเป็นมิตรกับเซลล์ภูมิคุ้มกันทำให้เราสามารถปลูกถ่ายจากผู้ให้ไปยังผู้รับได้ง่ายกว่าเซลล์ชนิดอืนๆ
เซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์หาได้จากที่ไหน
ในการเก็บเซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์มาใช้นั้น มักจะทำการเก็บมาจากเนื้อเยื่อไขกระดูก เนื้อเยื่อไขมัน และสายสะดือของสัตว์แรกเกิด การเก็บเซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์จากไขกระดูกและไขมันจะต้องทำการวางยาสลบสัตว์หรือวางยาชาเฉพาะที่ การดูดเซลล์จากไขกระดูกนั้นจะต้องใช้เข็มขนาดใหญ่และยาว ภายหลังการดูด สัตว์อาจมีอาการเจ็บอยู่เป็นอาทิตย์ได้ การเก็บเซลล์จากไขมันต้องใช้การผ่าตัดทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ และการวางยาสลบนั้นจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อชีวิตของสัตว์มากขึ้น แต่ทั้งการเก็บเซลล์จากไขกระดูกและไขมันนั้นมีความจำเป็นในกรณีที่เราต้องการใช้เซลล์สัตว์ที่ป่วยนั้นรักษาตัวเอง ส่วนการเก็บเซลล์ต้นกำเนิดจากสายสะดือลูกสัตว์แรกคลอด น่าจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด และคาดว่าอาจจะนำมาใช้ในการเก็บสะสมเซลล์ต้นกำเนิดไว้ในธนาคารเซลล์ต้นกำเนิด เพื่อใช้ในการรักษาสัตว์ตัวอื่นๆได้ในอนาคตอันใกล้
การเซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์รักษาโรค
การใช้เซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์ในการรักษาโรคนั้น ส่วนใหญ่ไม่ได้แต่เซลล์ต้นกำเนิดอย่างเดียวแต่จะให้ร่วมกับยาที่ใช้ในการรักษาโรคตามปกติ แต่หน้าที่ของเซลล์ต้นกำเนิดก็คือลดการอักเสบ และกระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซมตัวเอง ทำให้สัตว์หายเร็วขึ้น
โรคข้อสะโพกเสื่อมในสุนัขนั้น พบมากในสุนัขพันธุ์ใหญ่ เช่น พันธุ์เซนเบอร์นาร์ด พันธุ์เยอรมันเชฟเพิร์ด พันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ การรักษาส่วนใหญ่จะเป็นการรักษาตามอาการ โดยให้ทานยาแก้อักเสบทุกวัน ซึ่งจะส่งผลเสียกับอวัยวะในร่างกายได้ การใช้เซลล์ต้นกำเนิดก็จะเป็นการช่วยบรรเทาอาการ เป็นการลดใช้ยาแก้อักเสบหรืออาจจะไม่ต้องใช้ยาแก้อักเสบอีกเลย

ความเจ็บป่วยในม้ามักเกิดจากการวิ่งแข่ง ก็จะมีโรคกระดูกหัก โรคข้ออักเสบ โรคเอ็นฉีกขาด การรักษาโรคเหล่านั้น ก็ประกอบไปด้วยการผ่าตัด การใช้ยาแก้อักเสบ ซึ่งจะเกิดความเสี่ยงต่อชีวิตของม้า การใช้เซลล์ต้นกำเนิดก็จะลดความเสี่ยงเหล่านั้นลงไป เพราะม้าจะไม่ต้องผ่าตัด จะทำให้ม้าหายเร็วขึ้น ก็จะทำให้มันกลับมาวิ่งเร็วขึ้น  และเมื่อสัตว์หายเร็วขึ้น มันก็กลับมามีความสุขอีกครั้ง และเจ้าของก็มีความสุขครับ

Sunday 8 June 2014

เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด: เซลล์วิเศษ หรือไม่

เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด: เซลล์วิเศษ หรือไม่
เติมพงศ์ วงศ์ตะวัน

                ท่านผู้อ่านอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวของเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดมากันแล้วไม่ว่าจะทางสื่อโทรทัศน์ หรือหนังสือต่างๆ แต่ข้อมูลส่วนใหญ่ทีท่านได้ยินหรือได้อ่านมาก็จะเป็นเรื่องราวของคนกันครับ มาวันนี้ลองมาทำความเข้าใจกับเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดในสัตว์เลี้ยงกันบ้างครับ
            เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดคืออะไร


เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด หรือเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต (Haematopoietic stem cell) นั้นเป็นเซลล์ตั้งต้น หรือจะเรียกว่า เป็นพ่อแม่ของเซลล์เม็ดเลือดแดง (red blood cell) และเม็ดเลือดขาว (white blood cell) ในร่างกายก็ว่าได้  เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดนั้นมีหน้าที่เพิ่มจำนวน และเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นเซลล์เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว รวมทั้งเกล็ดเลือด (platelet) หลังจากนั้นเซลล์เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด จะออกจากไขกระดูกเพื่อกระจายไปตามส่วนต่างๆของร่างกายเพื่อทำหน้าที่ของมัน
 โดยเซลล์เม็ดเลือดแดงนั้นจะทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจน เพื่อไปเลี้ยงเซลล์อื่นๆในร่างกาย (เซลล์ทุกชนิดต้องการออกซิเจนเพื่อใช้ในการอยู่รอด และทำงานให้สมบูรณ์ในร่างกาย) ส่วนเซลล์เม็ดเลือดขาวนั้นจะทำหน้าที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน ช่วยต่อต้านสิ่งแปลกปลอมรวมทั้งเชื้อโรคที่เข้ามาสู่ร่างกายของเรา เกล็ดเลือดนั้นจะช่วยในการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดเราหยุดไหลเวลาที่เกิดเลือดออก  ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดนั้นถือเป็นเซลล์ที่มีความสำคัญมากในร่างกาย ถ้าเกิดความผิดปกติไปก็จะทำให้สัตว์เสียชีวิตได้ครับ
                เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดในร่างกายสัตว์นั้นมีลักษณะคล้ายคลึงกับที่พบในคนและสามารถพบได้ในสองแห่ง หนึ่งก็คือ ที่ไขกระดูก (bone marrow) และอีกที่ก็คือ ทีสายสะดือของสัตว์แรกเกิด
                การรักษาโรคด้วยเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด 
จริงๆแล้วเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดไม่มีคุณสมบัติในการรักษาโรคใดๆได้โดยตรง แต่จะใช้ร่วมกับวิธีอื่นๆในการรักษาโรค สำหรับโรคที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการทั่วโลกที่สามารถใช้เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดร่วมกันในการรักษาโรคก็คือโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวเท่านั้น เช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukaemia) โรคไขกระดูกเสื่อม เป็นต้น
                โรคความผิดปกติของเม็ดเลือด และไขกระดูก นั้นสามารถพบได้ทั้งในสัตว์เลี้ยงและในคนครับ ลักษณะอาการของผู้ป่วยโรคนี้ทั้งสัตว์และคนก็จะคล้ายๆกันก็คือ ส่วนใหญ่ก็มีอาการซีด ติดเชื้อง่าย เลือดออกง่าย และอาจพบจ้ำเลือดตามส่วนต่างๆของร่างกาย เป็นต้น สำหรับการรักษาโรคจะใช้หลักการคือ กำจัดเซลล์เก่าที่ผิดปกติไปและปลูกถ่ายเซลล์ใหม่เข้าไปแทน
การใช้เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดในการช่วยในการรักษาโรคในสัตว์เลี้ยงนั้นในปัจจุบันมีการทำแค่ในสุนัขเท่านั้นครับโดยเป็นเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดจากไขกระดูก และเท่าที่มีการรายงานก็จะทำที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ราวๆ ล้านกว่าบาทครับ
ขั้นตอนในการใช้เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดจากไขกระดูกในการรักษาโรค
ในเกือบทุกขั้นตอนของการรักษาสุนัขอาจจะต้องวางยาสลบ หรือยาซึมเพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยที่สุดครับ โดยมีขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1การกำจัดเซลล์เก่าที่ผิดปกติ
จะมี 2 วิธี คือ การใช้รังสีรักษา (Radiotherapy) หรือที่คนไทยมักเรียกกันว่า การฉายแสง และการใช้เคมีบำบัด (Chemotherapy) หรือที่คนไทยเรียกว่าการฉีดยาคีโม
ขั้นตอนที่ 2 การเก็บเซลล์ต้นกำเนิด
การเก็บเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดเพื่อการรักษานั้นปัจจุบันใช้วิธี การเก็บโดยตรงจาก ไขกระดูก วิธีนี้จะทำได้เร็ว แต่เจ็บ หรือ เก็บจากกระแสเลือด โดยวิธีนี้สุนัขจะไม่ค่อยเจ็บ แต่จะต้องมีการฉีดยากระตุ้นให้เซลล์ต้นกำเนิดออกมาที่กระแสเลือดเยอะๆ และจะต้องมีเครื่องมือราคาแพงช่วยในการเก็บเซลล์
ขั้นตอนที่ 3 การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด
ขั้นตอนนี้เป็นการปล่อยเซลล์ต้นกำเนิดสู่กระแสเลือดอย่างช้าๆ เพื่อไปทดแทนเซลล์เก่า
ขั้นตอนที่ 4 การพักฟื้น
การพักฟื้นจะต้องทำในโรงพยาบาลใช้เวลาประมาณ 10-14 วัน หรือมากกว่านั้น จนกว่าสุนัขจะแข็งแรงกลับบ้านได้
ขั้นตอนที่ 5 การติดตามการรักษา
เมื่อสุนัขกลับบ้านแล้ว ก็จะได้รับยาไปกิน และจะต้องกลับมาตรวจร่างกายเป็นประจำ
                ความเสี่ยงในการรักษาด้วยเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด
ความเสี่ยงในการรักษานั้นที่สำคัญมีอยู่ในสองขั้นตอน คือ ขั้นตอนแรก คือการกำจัดเซลล์เก่า เพราะการฉายแสงหรือการทำคีโมนั้นไม่ได้ทำแค่เซลล์ที่ผิดปกติตายเท่านั้น แต่จะทำให้เซลล์ปกติหลายชนิดทั้งที่อยู่ที่ไขกระดูกและอวัยวะอื่นเสียหายด้วย ดังนั้นสัตว์ป่วยที่ได้รับการรักษาจะค่อนข้างอ่อนแอและมีอาการข้างเคียงเยอะ เช่น ผิวแห้ง ผมร่วง อาเจียน และท้องเสีย เป็นต้น บางครั้งสัตว์ก็อาจจะเสียชีวิตก่อนที่จะได้รับการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดได้
        ขั้นตอนที่เสี่ยงอันดับที่สองก็คือ ความเข้ากันของเซลล์ต้นกำเนิด ในบางกรณีเราสามารถใช้เซลล์ต้นกำเนิดของสุนัขที่ป่วยมารักษาตัวเองได้ วิธีนี้ก็จะลดความเสี่ยงตรงนี้ไป แต่ส่วนใหญ่แล้วเราจะต้องใช้เซลล์ต้นกำเนิดของสุนัขตัวอื่น ที่เป็นพี่น้องกันครับ โดยจะต้องมีการทดสอบทางห้องทดลองก่อนว่ามีความเข้ากันหรือไม่อย่างไร เพราะโอกาสที่จะเข้ากัน (คำว่าเข้ากันนั้นหมายความว่ามีความปลอดภัยอยู่สูงครับ) นั้นก็มีอยู่ประมาณ 1 ใน 4 ครับ ก็จะประมาณว่า ถ้ามีพี่น้องอยู่ 4 ตัว ก็อาจจะเจอ 1 ตัว ที่เซลล์ต้นกำเนิดเข้ากันได้ครับ ถ้าไม่เข้ากันแล้วปลูกถ่ายก็จะเกิดการต่อต้านจากร่างกายได้ส่งผลให้สุนัขเสียชีวิตได้ในที่สุด
                ระวังโฆษณาเกินจริง
สิ่งที่ต้องแจ้งให้กับผู้อ่านได้เข้าใจกันนะครับ ก็มีอยู่ สองสามอย่างครับ
1.       ประเทศไทยยังไม่มี หรือไม่สามารถรักษาสุนัขด้วยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดนะครับ
2.       การเก็บเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดจากสายสะดือแช่แข็งไว้ใช้ในอนาคตยังไม่เป็นที่ยอมรับในวงการสัตวแพทย์นะครับ
3.       เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดรักษาได้แต่โรคเม็ดเลือดนะครับ โรคอื่นยังไม่เป็นที่ยอมรับกัน และถ้าหากเอาไปใช้มีความเสี่ยงสูงครับ